อยากเรียนปริญญาโทต้องรู้ เรียนปริญญาโทที่ไหนดี มีวิธีเตรียมตัวยังไง

เรียนปริญญาโทที่ไหนดี? คำถามนี้อาจผุดขึ้นในใจของหลายคนที่กำลังคิดจะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น การตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทเป็นก้าวสำคัญในชีวิตที่ต้องคิดให้ดี ๆ ซึ่งในบทความนี้ Stamford International University ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทมาแนะนำ พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อ MBA ใครกำลังวางแผนจะเรียนต่อปริญญาโทต้องติดตามบทความนี้ให้จบ

เรียนต่อปริญญาโทดีไหม?

การเรียนต่อปริญญาโทเป็นการลงทุนทั้งเวลาและเงินทอง แต่ก็มีข้อดีหลายอย่างที่น่าสนใจ อย่างแรกเลยคือ การมีวุฒิปริญญาโทสามารถเพิ่มโอกาสในการทำงานและเลื่อนตำแหน่งได้ เพราะหลายบริษัทมองว่าคนจบปริญญาโทมีความรู้เฉพาะทางและทักษะการคิดวิเคราะห์ที่ดีกว่า นอกจากนี้ การเรียนปริญญาโทยังช่วยพัฒนาความรู้และทักษะเฉพาะทางให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการทำงานและการพัฒนาอาชีพ

อีกข้อดีที่สำคัญคือ การสร้างเครือข่ายกับคนเก่ง ๆ และคนที่อยู่ในสายงานเดียวกัน ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจหรือการร่วมงานกันในอนาคต สำหรับคนที่ชอบด้านวิชาการ การเรียนปริญญาโทยังเป็นก้าวแรกสู่การทำงานวิจัยหรือเรียนต่อปริญญาเอกอีกด้วย แต่ก่อนจะตัดสินใจเรียนต่อ ควรคิดให้ดีว่าการเรียนต่อจะช่วยให้เราถึงเป้าหมายในอาชีพได้จริงหรือไม่ และเรามีความพร้อมทั้งเรื่องเวลาและเงินพอหรือเปล่า

รูปแบบการเรียนปริญญาโท

ปัจจุบัน การเรียนปริญญาโทมีหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคน โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่

เรียนแบบเต็มเวลา (Full-Time)

การเรียนแบบเต็มเวลาเหมาะสำหรับคนที่พร้อมจะทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนเต็มที่ โดยทั่วไปจะใช้เวลาเรียน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและมหาวิทยาลัย ข้อดีของการเรียนแบบนี้คือจบเร็วและมีเวลาเต็มที่สำหรับเรียนและทำวิจัย นักศึกษาจะได้ประสบการณ์การเรียนรู้แบบเข้มข้น มีโอกาสทำกิจกรรมเสริมหลักสูตร และสร้างเครือข่ายกับเพื่อนและอาจารย์ได้มากกว่า แต่ก็อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องทำงานไปด้วยระหว่างเรียน

เรียนแบบนอกเวลา (Part-Time)

การเรียนแบบนอกเวลาหรือ Part-Time เหมาะสำหรับคนที่อยากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย โดยมักจะเรียนตอนเย็นหรือเสาร์-อาทิตย์ ใช้เวลาเรียนประมาณ 2-3 ปี ข้อดีของการเรียนแบบนี้คือสามารถนำความรู้ที่เรียนไปใช้ในงานได้เลย และยังสามารถแบ่งเวลาระหว่างงานกับเรียนได้ดี นอกจากนี้ ยังได้สร้างเครือข่ายกับคนที่มีประสบการณ์ทำงานจริง ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจในอนาคต แต่ก็อาจท้าทายในเรื่องการแบ่งเวลาและอาจใช้เวลานานกว่าในการเรียนจบ

เรียนแบบออนไลน์ (Online)

การเรียนแบบออนไลน์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าและมีโควิด-19 ระบาด การเรียนแบบนี้ยืดหยุ่นมาก เรียนที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามสะดวก ทำให้จัดการเวลาระหว่างเรียน ทำงาน และชีวิตส่วนตัวได้ดี นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เรียนกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศได้โดยไม่ต้องบินไปเรียนที่โน่น แต่การเรียนออนไลน์ก็ต้องมีวินัยและความรับผิดชอบสูง เพราะไม่มีการเข้าเรียนแบบปกติ และอาจขาดการพบปะกับเพื่อนและอาจารย์แบบตัวต่อตัว

เจาะลึกหลักสูตร MBA หลักสูตรปริญญาโทยอดนิยม

MBA หรือ Master of Business Administration เป็นหนึ่งในหลักสูตรปริญญาโทที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการธุรกิจ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทในหลักสูตร MBA แสตมฟอร์ดจะพามาทำความรู้จักกับหลักสูตรนี้กันให้มากขึ้น

หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต หรือ MBA คืออะไร?

MBA หรือ Master of Business Administration เป็นปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่เน้นพัฒนาทักษะการบริหารจัดการระดับสูง หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อเตรียมคนให้พร้อมเป็นผู้นำในองค์กรธุรกิจ โดยครอบคลุมความรู้หลายด้านของการบริหารธุรกิจ เช่น การเงิน การตลาด การจัดการคน การวางแผนกลยุทธ์ และการจัดการการดำเนินงาน นอกจากนี้ MBA ยังเน้นพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการตัดสินใจในสถานการณ์ธุรกิจที่ซับซ้อน

ใครเหมาะกับการเรียนต่อ MBA

MBA เหมาะกับหลายกลุ่มคน แต่ส่วนใหญ่มักเหมาะกับคนที่ทำงานมาแล้วสักพัก (โดยเฉลี่ยประมาณ 3-5 ปีขึ้นไป) และอยากพัฒนาทักษะการบริหารเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารหรือเริ่มธุรกิจตัวเอง นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพมาทางบริหารธุรกิจ หรือเจ้าของธุรกิจที่อยากเพิ่มความรู้และทักษะในการบริหารธุรกิจให้ดีขึ้น แต่คนที่สนใจเรียน MBA ควรพร้อมทั้งเรื่องเวลาและเงิน เพราะหลักสูตรนี้มักจะเข้มข้นและค่าเรียนค่อนข้างแพง

MBA เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง?

MBA มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้านของการบริหารธุรกิจ โดยทั่วไปจะมีวิชาหลัก ๆ ดังนี้

• การบัญชีและการเงิน: เรียนรู้การวิเคราะห์งบการเงิน การวางแผนการเงิน และการตัดสินใจลงทุน
• การตลาด: ศึกษากลยุทธ์การตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค และการสร้างแบรนด์
• การจัดการทรัพยากรมนุษย์: เรียนรู้การบริหารคน การสร้างแรงจูงใจ และการพัฒนาบุคลากร
• การจัดการการดำเนินงาน: ศึกษาการบริหารห่วงโซ่อุปทาน การควบคุมคุณภาพ และการจัดการโครงการ
• กลยุทธ์ธุรกิจ: เรียนรู้การวางแผนกลยุทธ์ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

นอกจากนี้ ยังมีวิชาเลือกที่หลากหลายตามความสนใจ เช่น การเป็นผู้ประกอบการ การจัดการนวัตกรรม หรือการจัดการระหว่างประเทศ

เรียนต่อ MBA กี่ปีจบ?

ระยะเวลาในการเรียนต่อ MBA ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเรียนและสถาบันการศึกษา โดยทั่วไปแล้ว

• หลักสูตรเต็มเวลา (Full-time MBA) ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี
• หลักสูตรนอกเวลา (Part-time MBA) ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี
• หลักสูตรสำหรับผู้บริหาร (Executive MBA) ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี
• หลักสูตรออนไลน์ (Online MBA) มีความยืดหยุ่นมากกว่า ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี

ทั้งนี้ ระยะเวลาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของหลักสูตร จำนวนวิชาที่ต้องเรียน และความยืดหยุ่นในการจัดตารางเรียน

เรียนปริญญาโทที่ไหนดี?

เรียนปริญญาโทที่ไหนดี? การเลือกสถาบันที่จะเรียนปริญญาโทเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ชื่อเสียงของสถาบัน คุณภาพของหลักสูตร คณาจารย์ โอกาสในการสร้างเครือข่าย และค่าใช้จ่าย ซึ่งหนึ่งในสถาบันที่มีหลักสูตรและรูปแบบการเรียนให้เลือกอย่างหลากหลายก็คือ Stamford International University 

มหาวิทยาลัยนานาชาติที่มีหลักสูตรปริญญาตรีให้เลือกถึง 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) และหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MPA) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนทำงาน ผู้เรียนสามารถเลือกแผนการเรียนที่เหมาะกับตนเองได้ และเลือกกลุ่มวิชาเฉพาะด้านที่สนใจเรียนได้ 

ซึ่งทุกหลักสูตรปริญญาโทของมหาวิทยาลัย ได้รับการรับรองจาก สกอ. อีกทั้งยังมีการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยหลักการ 4i ไม่ว่าจะเป็น Innovative Learning, Industry Linkage, International Perspective และ Integrity โดยเชื่อมโยงสี่ส่วนนี้เข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในโลกธุรกิจอย่างแท้จริง

จุดเด่นของการเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

หลักสูตรปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด นับว่าเป็นหลักสูตรที่ตอบโจทย์กับผู้ที่ต้องการพัฒนาองค์ความรู้ควบคู่ไปกับทักษะต่าง ๆ อย่างรอบด้าน โดยจุดเด่นที่สำคัญของหลักสูตรปริญญาโท มีดังนี้

• เชื่อมโยงกับภาคธุรกิจ เพิ่มความรู้ที่เอาไปใช้ได้จริง เรียนกับผู้เชี่ยวชาญจากภาคธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ เรียนแบบ interactive ผ่าน workshop ต่าง ๆ
• มีทั้งหลักสูตร FULL-TIME, PART-TIME และ ONLINE สามารถจบได้ภายใน 1 ปี, 1.5 ปี และ 2 ปี เปิดสอนทั้งภาคภาษาไทย และนานาชาติ
• มีเวลาเรียนให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับคนทำงาน หลักสูตร PART-TIME เรียนสัปดาห์ละ 1 วัน (เสาร์ หรือ อาทิตย์) และ 2 วัน ช่วงเย็นวันธรรมดา หรือสามารถเลือกเรียนแบบออนไลน์ ที่เรียนจากที่ไหน และเมื่อไหร่ก็ได้
• เพิ่มความรู้และทักษะเฉพาะด้านจากกลุ่มวิชา Specialized Studies สามารถเลือกกลุ่มวิชาเลือก Specialized Studies เพื่อเพิ่มความชำนาญเฉพาะด้านได้ ไม่ว่าเป็นกลุ่ม International Business Management และ Digital Marketing
• เรียนกับอาจารย์ที่มีประสบการณ์จริงด้านธุรกิจ โอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับอาจารย์ที่มีความรู้และประสบการณ์จริงด้านธุรกิจและการบริหารงานองค์กรจากทั้งในและต่างประเทศ
• สถานที่เรียนที่สะดวกและทันสมัย เรียนที่ ศูนย์การศึกษา อโศกแคมปัส (ตึก Exchange Tower) ใจกลางย่านธุรกิจ เดินทางสะดวก สามารถเลือกวางแผนการชำระค่าเล่าเรียนเป็นรายวิชาได้

5 วิธีเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโท

การเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโทเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการศึกษาระดับสูงขึ้น ไม่ว่าคุณจะเพิ่งจบปริญญาตรีหรือทำงานมาสักระยะแล้ว การเตรียมความพร้อมอย่างดีจะช่วยให้คุณเริ่มต้นการเรียนได้อย่างมั่นใจและราบรื่น ในส่วนนี้ เราจะแนะนำวิธีเตรียมตัว 5 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการเรียนปริญญาโท ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายไปจนถึงการเตรียมความพร้อมด้านการเงิน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. กำหนดเป้าหมายและวางแผนการเรียน

การเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโทควรเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าคุณต้องการเรียนเพื่ออะไร เช่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง เปลี่ยนสายอาชีพ หรือเพิ่มพูนความรู้ในสาขาที่สนใจ เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ให้วางแผนการเรียนโดยละเอียด เช่น เลือกสาขาวิชา หลักสูตร และสถาบันที่ตรงกับเป้าหมายของคุณ รวมถึงวางแผนเรื่องเวลาและการเงินด้วย การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเครียดในระหว่างการเรียน

2. ศึกษาข้อมูลหลักสูตรและสถาบันอย่างละเอียด

ก่อนตัดสินใจสมัครเรียน ควรศึกษาข้อมูลของหลักสูตรและสถาบันที่สนใจอย่างละเอียด โดยดูจากเว็บไซต์ของสถาบัน สอบถามจากศิษย์เก่าหรือนักศึกษาปัจจุบัน และเข้าร่วมงาน Open House หรือสัมมนาแนะแนวการศึกษา ควรพิจารณาเรื่องเนื้อหาหลักสูตร คณาจารย์ โอกาสในการฝึกงานหรือทำวิจัย และความก้าวหน้าในอาชีพของศิษย์เก่า นอกจากนี้ ยังควรตรวจสอบการรับรองวุฒิการศึกษาและความน่าเชื่อถือของสถาบันด้วย

3. เตรียมเอกสารและคุณสมบัติให้พร้อม

การสมัครเรียนปริญญาโทมักต้องใช้เอกสารหลายอย่าง เช่น ใบปริญญาบัตร ทรานสคริปต์ จดหมายรับรอง และเรียงความแสดงจุดมุ่งหมายในการศึกษา (Statement of Purpose) ควรเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้พร้อมล่วงหน้า โดยเฉพาะจดหมายรับรองที่ต้องขอจากอาจารย์หรือหัวหน้างาน นอกจากนี้ หลายหลักสูตรอาจมีข้อกำหนดเรื่องคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL หรือ IELTS หรือคะแนนมาตรฐานอื่น ๆ เช่น GMAT หรือ GRE สำหรับหลักสูตร MBA ดังนั้น ควรเตรียมตัวสอบและยื่นผลคะแนนให้ทันเวลา

4. พัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็น

การเรียนระดับปริญญาโทมักเน้นการคิดวิเคราะห์ การวิจัย และการนำเสนอมากกว่าระดับปริญญาตรี ดังนั้น ควรพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การอ่านและวิเคราะห์บทความวิชาการ การเขียนเชิงวิชาการ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่จะเรียน และทักษะการนำเสนอ นอกจากนี้ การฝึกทักษะการบริหารเวลาและการจัดการความเครียดก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเรียนปริญญาโทมักมีความเข้มข้นและต้องการการจัดการเวลาที่ดี

5. เตรียมความพร้อมด้านการเงิน

การเรียนปริญญาโทมักมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น ควรวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ เริ่มจากการประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จากนั้นพิจารณาแหล่งเงินทุน เช่น เงินเก็บ ทุนการศึกษา หรือการกู้ยืมเพื่อการศึกษา ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษาจากหลาย ๆ แหล่ง ทั้งจากสถาบันการศึกษา องค์กรภาครัฐและเอกชน และมูลนิธิต่าง ๆ การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยลดความกังวลและทำให้คุณสามารถทุ่มเทกับการเรียนได้อย่างเต็มที่

สรุปบทความ

การตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทเป็นก้าวสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งในแง่ของเป้าหมายในอาชีพ ความพร้อมส่วนตัว และการเงิน การเลือกหลักสูตรและสถาบันที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนแบบเต็มเวลา นอกเวลา หรือออนไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจด้านบริหารธุรกิจ การเรียนต่อ MBA ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมความรู้ด้านการบริหารจัดการอย่างกว้างขวาง และเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ

ในการเลือกว่าจะเรียนปริญญาโทที่ไหนดี? ควรพิจารณาจากชื่อเสียงของสถาบัน คุณภาพของหลักสูตร โอกาสในการสร้างเครือข่าย และค่าใช้จ่าย โดยอาจพิจารณาทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ เอกชน และนานาชาติอย่างมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด ท้ายที่สุด การเรียนต่อปริญญาโทเป็นการลงทุนในตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ในอาชีพและการพัฒนาตนเอง แต่ก็ต้องพร้อมที่จะทุ่มเทเวลาและทรัพยากรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สุดท้ายนี้ สำหรับนักศึกษาที่ต้องการสมัครเรียนปริญญาโทที่ Stamford International University หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางเหล่านี้

• โทร: 02 769 4045
• Facebook: https://www.facebook.com/stamfordthailand/ 
• สมัครเรียน: https://www.stamford.edu/th/admissions/masters-degree/