¼ เศษหนึ่งส่วนสี่ : เรื่องราวและแรงบันดาลใจของนักศึกษาแสตมฟอร์ดสู่ผลงานระดับรางวัล
กฤตพัส เจริญรดาสกุล : นักศึกษา สาขาการออกแบบสื่อสร้างสรรค์ – Creative Media Design
ภูมิพิพัฒน์ ด้วงเงิน : นักศึกษา สาขาสาขาวารสารศาสตร์และการกระจายเสียง – Broadcast and Journalism
บทสัมภาษณ์ 2 รุ่นพี่แสตมฟอร์ดจากสาขานิเทศศาสตร์และสาขาการออกแบบสื่อสร้างสรรค์ ถึงเรื่องราวและแรงบันดาลใจของหนังสั้น “¼ เศษหนึ่งส่วนสี่” ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภททีมนักศึกษาไทย จากการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย ในเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 6 Thailand International Film Destination Festival 2018 : TIFDF2018 จัดโดยกรมการท่องเที่ยว
จุดเริ่มต้นของการเข้าร่วม Thailand International Film Destination Festival 2018
ภูมิพิพัฒน์: เราเห็นจากโปสเตอร์ที่บอร์ดหน้าห้อง CommArts เลยสนใจอยากลองสมัคร
กฤตพัส: เราเจอกันที่ห้อง CommArts แบงค์เลยมาชวนผมให้มารวมทีมกัน
ภูมิพิพัฒน์: เราก็ส่งใบสมัครพร้อมคลิปแนะนำตัวเข้าไป แล้วทางผู้จัดงานจะคัดจากคลิปแนะนำนำตัวเหลือ 36 ทีม และคัดอีกในรอบสัมภาษณ์ให้เหลือ 15 ทีม เพื่อไปเข้าค่ายทำกิจกรรม
เข้าค่ายพบรุ่นพี่
กฤตพัส: เป็นการเข้าค่าย 2 วัน เค้าก็จะมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง เช่น การแนะนำโครงการ ผลงานของปีที่ผ่านมา และแนวทางในการทำวีดีโอ
ภูมิพิพัฒน์: มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างรวมถึงกิจกรรมละลายพฤติกรรมด้วย
กฤตพัส: และเราได้ฟังรุ่นพี่ที่เคยได้รับรางวัลที่หนึ่งมาแชร์ประสบการณ์ด้วย
โจทย์ – เศรษฐกิจพอเพียง
กฤตพัส: โจทย์ของปีนี้คือ เศรษฐกิจพอเพียง โดยเราจะต้องสร้างหนังสั้นความยาว 5-7 นาที มีระยะเวลาในการถ่ายหนังสั้นนี้เพียง 3 วันเท่านั้น
ภูมิพิพัฒน์: ทางผู้จัดจะให้แต่ละทีมเลือกสถานที่ถ่ายทำตั้งแต่ตอนสมัครเลย ซึ่งถ้าเลือกแล้วก็จะต้องถ่ายเฉพาะในจังหวัดที่เลือกเท่านั้น ซึ่งทางผู้จัดก็อำนวยความสะดวกในการมีรถตู้ให้ในการเดินทาง ทั้ง 3 วันเลย
กฤตพัส: สำหรับสถานที่ของทีมเราก็จะมี สวนหลวง ร.9 สยามสแควร์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด และสำนักงานเขตหลักสี่
แรงบันดาลใจ
กฤตพัส: เราตีโจทย์จากคนวัยทำงานในเมืองในยุคปัจจุบัน และดึงประสบการณ์การทำงานของตัวเองออกมาใช้ รวมถึงเอาการออกแบบมาผสมผสานการทำเศรษฐกิจพอเพียง โดยเราตั้งใจไม่สื่อถึงเศรษฐกิจพอเพียงนอกเมืองตามที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ที่แบบต้องเป็นทุ่งนาทุ่งไร่ แต่เราพยายามเล่าถึงอะไรที่ใกล้ตัวเรามากขึ้น
ภูมิพิพัฒน์: และพวกเราได้นำพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาเป็นแรงบันดาลใจในครั้งด้วย คือ เศรษฐกิจพอเพียง จริงๆ เราไม่ต้องทำทั้งหมด ทำแค่ ¼ ของชีวิตก็พอแล้ว
การวางแผนและเตรียมตัว
ภูมิพิพัฒน์: ทางผู้จัดให้โจทย์มาแค่ว่าเป็นหัวข้อเศรษฐกิจพอเพียงและทำเป็นหนังสั้น เราเลยหาข้อมูลกันเยอะมาก เพื่อตีโจทย์ หาไอเดีย ว่าจะเดินเรื่องอย่างไรให้น่าสนใจ แล้วก็ทำบท และ story board
กฤตพัส: เราได้อาจารย์ต้น (อาจารย์อนุชา เตชะมงคลกุล) เป็นที่ปรึกษาด้วย รวมถึงได้ไอเดียต่างๆ กับเพื่อนๆ รุ่นพี่ที่รู้จัก มาช่วยกัน
ภูมิพิพัฒน์: ผมมองว่าแค่เราสองคนมันไม่มีทางทำเสร็จได้เลย ผลงานนี้จึงเป็นผลงานของทุกคนที่ช่วยมันให้สำเร็จขึ้นมา
ความคาดหวังและรางวัลที่ได้รับ
ภูมิพิพัฒน์: พอส่งหนังสั้นเสร็จ ทุกคนก็ได้เข้าร่วม workshop ที่กันตนา และได้ดูผลงานของเพื่อนๆ ทีมอื่น และตามด้วยงานประกาศรางวัล
กฤตพัส: พวกเราก็คาดหวังนะครับ เป็นธรรมดา เราก็ได้ดูผลงานของทีมอื่นๆ ด้วย ซึ่งหนังของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็ดี ผมชื่นชมอยู่หลายงานเลย
ภูมิพิพัฒน์: ตอนนั้นเราลุ้นพอสมควร เพราะเค้าไม่ได้คัดออกเลยทั้ง 15 ทีม ทุกคนมีโอกาสทั้งหมด แต่พอรู้ว่าได้รับรางวัลรองอันดับ 2 ประเภททีมนักศึกษาไทย เลยถามพี่ๆ ในค่าย เค้าบอกว่าไอเดียของเรามันต่างไปจากคนอื่น เป็นไอเดียที่ใหม่ และออกนอกกรอบเดิมๆ ที่เคยเห็นมา
กฤตพัส: ผมคิดว่า เพราะพวกเราได้นำพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาตีโจทย์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทำให้ผลงานของเรามีความแตกต่างจากงานอื่นๆ
ประสบการณ์และความรู้ในห้องเรียนที่นำมาใช้ได้จริง
ภูมิพิพัฒน์: จริงๆ ผมได้ใช้ทุกส่วนเลย เพราะผมเรียนสาขาวารสารศาสตร์และการกระจายเสียงมา 3 ปีแล้ว ผ่านการฝึกฝนมาพอสมควร เราต้องทำตั้งแต่ Pre-Production ไปถึง Post-Production ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าเราต้องหาประสบการณ์นอกห้องเรียนบ้าง ลองทำงานที่ไม่ใช่งานของอาจารย์บ้าง
กฤตพัส: ส่วนตัวผมชอบในการทำหนังอยู่แล้ว เลยได้เอาประสบการณ์การทำงานที่ผ่านๆ มารวมกับเนื้อเรื่อง รวมถึงเอาไอเดียมาใส่เพื่อเพิ่มลูกเล่นในหนังสั้นให้มากขึ้น
ถึงเพื่อนๆ ที่อยากลองเข้าประกวด
ภูมิพิพัฒน์: อย่าไปกลัวที่จะลอง เราต้องเตรียมความพร้อม ทำการบ้าน แนวทางการแข่งขันเป็นยังไง ส่วนตัวผมคิดว่าผลงานแล้วไม่เกี่ยวกับอุปกรณ์ว่าใครดีกว่าแล้วจะชนะ แต่มันขึ้นอยู่กับไอเดียและขึ้นอยู่กับกรรมการของแต่ละการแข่งขันด้วย
กฤตพัส: ลองทำดูครับ สมมติถ้าเราไม่เก่งด้านไหน ลองหาเพื่อนมาเสริมมารวมกัน ซึ่งจะช่วยให้เราดีขึ้นไปกันทั้งคู่
————————————————————————————————————————————-